ตารางเทศกาลทั่วโลก เทศกาลไฟที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งบนโลกที่เป็นเทศกาลของชาวไวกิ้งทึ่จัดขึ้นที่ประเทศสกอตแลนด์เป็นประจำทุกปีจะมีความน่าสนใจเพียงใด?

ตารางเทศกาลทั่วโลก เทศกาลที่เกี่ยวกับไฟนั้นถือว่า จะมีอยู่หลากหลายประเทศและหนึ่งใน เทศกาลน่าสนใจระดับโลก ที่เกี่ยวกับไฟที่มีขื่อเสียงอย่างมาก ที่หลายๆท่านอยากไปสัมผัส นั่นก็คือเทศกาล Up Helly Aa เทศกาลนี้จะเป็นเทศกาลของ ชาวไวกิ้งที่จัดขึ้นในสกอตแลนด์ โดนจะใช้ไฟจริงๆปละเผาจริง โดยที่ชาวไวกิ้งนั้น

จะเป็นชนเผ่า ของนักรบและนักเดินเรือ ที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน และมีมากมากกว่า 100 ปีเลยทีเดียว โดยที่ชาวไวกิ้งนั้นถือว่ามีความสำคัญ ในการพัฒนายุโรปในยุคกลาง ด้วยเหตุนึ้จึงทำให้ได้มีการจัดเทศกาล เพื่อเป็นการลำรึกถึงชาวไวกิ้ง และเป็นประเพณีที่จะมีการจัดขึ้น ในทุกๆปีโดยจะจัดอย่างยิ่งใหญ่ และมีความอลังการเป็นอย่างมาก

ซึ่งประเทศสกอตแลนด์นั้น จะมีพรมแดนที่ร่วมกับประเทศอังกฤษ ในทางทิศใต้ในอดีตนั้นได้ถูกยึดครอง โดยชาวไวกิ้งจึงทำให้ได้รับอิทธิพล มาจากชาวไวกิ้งและในช่วงต้นปี ในทุกๆ ปีจะมีผู้คนจำนวนมาก ที่เดินทางมากันเพื่อมาเฉลิมฉลอง ในเทศกาลไวกิ้งนี้โดยที่ ผู้ที่มาร่วมฃานเทศกาลจะมีการ แต่งตัวเป็นนักรบในชุดหุ้มเกราะ

ซึ่งเป็นชุดนักรบในยุคโบราณ พร้อมกับหาคเดินขบวนไปรอบเมือง เลอร์วิก Lerwick ไปจนถึงเมืองท่าเรือของสกอตแลนด์ เทศกาลยุโรป จากนั้นในช่วงค่ำก็จะมีการ จุดคบเพลิงไฟอย่างตระกาลตา และรบมไปถึงจะมีการเผาเรือไวกิ้ง หลังจากนั้นจะถือว่าเป็นสัญญาณ

เริ่มต้นในการเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ และทุกคนที่มาร่วมงานเทศกาล จะพร้อมกันร้องเพลงและเต้นรำ พร้อมหับการเฉลิมฉลอง ยาวไปจนถึงรุ่งเช้าของอีกวัน ตอนที่เห็นแสงของพระอาทิตย์ โดยในแต่ละปีนั้นก็จะมีนักท่องเที่ยว และคนในมัองถิ่นที่เดินทาง

มาร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลนี้ หลายหมื่นคนกันเลยก็ว่าได้ จึงทำให้เทศกาลนี้ถือว่าเป็น เทศกาลไฟที่มีความยิ่งใหญ่ ที่สุดบนโลกนี้เลยก็ว่าได้ จนทำให้มีชื่อเสียงระดับโลก จนใครต่อใครก็อยากไปสัมผัส กับการเฉลิมฉลองนี้ซักครั้ง

ตารางเทศกาลทั่วโลก เทศกาลที่ผู้คนในเมืองชิคาโกจะร่วมใจกัใส่เสื้อผ้าสีเขียวและรวมไปถึงการตกแต่งสถานที่ต่างๆให้เป็นสีเขียวทั้งหมดจะน่าสนุกเพียงใด?

เทศกาลต่างประเทศ ที่ได้มีการจัดขึ้น เป็นประจำทุกปีในไอร์แลนด์ ที่ทำสืบต่อกันมายาวนานกว่า 60 ปี ปละมีจุดเด่นจนเป็นที่รู้จัก ด้วยการใช่สีเขียวตลอดเทศกาล นั่นก็คือ เทศกาล Saint Patrick’s Day หรือที่หลายคนรู้จัก ย้อมแม่น้ำชิคาโกเป็นสีเขียว ในทุกๆปีที่ประเทศไอร์แลนด์ จะมีการจัดงานเฉลิมฉลอง ที่มีความยิ่งใหญ่ใจเป็นที่สนใจ

ของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ในการจัดเทสกาลครึ้งนี้ก็เพื่อ เป็นการระลึกถึงเซนต์แพทริก ไม่ว่าจะมีการจัดขึ้นที่ เมืองชิคาโก ในรัฐอิลลินอยส์ ของสหรัฐอเมริกา ที่เป็นหนึ่งเมืองที่ได้มีการ จัดงานเทศกาล นี้อย่างยิ่งใหญ่ และมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งเมื่อเวลาในการจัดเทศกาลนี้ ในเมืองชิคาโกก็จะมีการ ย้อมแม่น้ำ กลางเมืองชิคาโก Chicago River

ให้กลายเป็นสีเขียวที่ดูแปลกตา ในการย้อมแม่น้ำนั้นก็จะใช้ Fluorescein ที่เป็นสารชนิดหนึ่งที่มีลักษณะ เป็นผงสีส้มที่เป็นส่วนผสมของอินทรีย์สังเคราะห์ แต่จะไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด ที่เป็นการยืนยันของทางการ ในด้านสิ่งแวดล้อมในเมืองชิคาโก และได้กลายเป็นเทศกาล ประที่ทำสืบต่อกันมายาวนาน โดยที่ผู้คนทั่วเมืองชิคาโกนั้น

ก็จะมีการใส่เสื้อผ้าสีเขียว และรวมไปถึงการตกแต่ง สถานที่ต่างๆให้เป็นสีเขียว พร้อมกับขบวนพาเหรดสุดอลังกาล ซึ่งถือว่าเป็น เทศกาลแปลกๆ ที่หาดูได้ยากมากเลยทีเดียว จึงทำให้เทศกาลนี้กลายเป็น เทศกาลยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ที่อยากไปสัมผัสในการเฉลิมฉลอง เทศกาล Saint Patrick’s Day จนทำให้หลายๆคนต้องติดใจ

เทศกาลที่มีชื่อเสียงมากในอันดับต้นๆของโลกที่จัดขึ้นในการเฉลิมฉลองการสิ้นสุดการทำสงครามโลกครั้งที่2

หลายคนคงรุ้จักเป็นอย่างดี ด้วยการที่เป็น เทศกาลมีขื่อเสียง ระดับโลกเลยก็ว่าได้ โดยจะมีการจัดขึ้นเพื่อเป็นการ เฉลิมฉลองการสิ้นสุดของ สงครามโลกครั้งที่ 2 รวมไปถึงการล่มสลายของ ระบอบคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย นั่นก็คือ เทศกาล ไวท์ไนท์ White Nights เป็นเทศกาลโด่งดังระดับโลก ซึ่งในช่วงของการจัดเทศกาลนี้นั่น

จะอยู่ช่วงการเกิดปรากฏการณ์ ทางธรรมชาติอย่างพระอาทิตย์เที่ยงคืน ที่ในช่วงเวลากลางวันนั่น จะยาวนานและในช่วง เวลากลางคืนจะสั้นโดยที่ ประมาณสี่ทุ่มท้องฟ้ายังสว่าง ด้วยการที่รัสเซียนั้นมีอาณาเขต มึ่มีความกว้างใหญ่อย่างมาก จึงทำให้ให้สามารถมองเห็น ปรากฏการณ์ครั้งนี้ได้อย่างชัดเจน และจะอยู่ในช่วงฤดูร้อน

ประมาณเดือนมิถุนายน ไปจนถึงเดือนสิงหาคม และจะมีอุณหภูมิประมาณที่ 15 – 30 องศา ในการจัดงานเทศกาลนี้ ถือว่าเป็นงานในการแสดง ผลงานศิลปะประจำปีของรัสเซีย ด้วยจุดเด่นที่มีความสวยงามของ เทศกาลนี้นั่นคือเรือใบสีแดง ที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่ง

ในการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยที่เรือจะแล่นผ่านแม่น้ำเนวา พร้อมกับพลุและดอกไม้ไฟ จำนวนมาก ที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงอย่างอลังกาล รวมไปถึงจะมีการแสดงต่างๆ ที่มีความโดดเด่นอย่างมาก โดยมีการแสดงที่หลากหลาย และไม่สามารถหาชมได้ที่ไหน

นอกจากที่นี่ที่เดียวเท่านั้น โดยในแต่ละปีนั้รนก็จะมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการแสดง โอเปร่า แชมเบอร์มิวสิคบัลเล่ต์ ซิมโฟนีละคร และอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก เป็นผลงานการแสดงของ นักดนตรีขื่อดังมากมาย

เทศกาลเบียร์ที่โด่งดังที่สุดในโลกที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานโดยมีนักร้องและวงดนตรีพร้อมกับการแต่งกายในชุดพื้นเมือง

เทศกาลที่หลายๆคนชื่นชอบ และคงรู้จักกันเป็นอย่างดี เป็นเทศกาลเบียร์ประจำปี ที่ถือได้ว่าเป็น เทศกาลโด่งดังระดับโลก เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ เทศกาล Oktoberfest ในการรจัดเทศกาลนี้จะเต็มไปด้วย ความสนุกสนานในโดยมีนักร้อง และวงดนตรีจำนวนมาก และจะเป็นเทศกาลที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 200 ปีเลยทีเดียว

ซึ่งได้มีการจัดขึ้นในครั้งแรก ในวันที่ 12 ตุลาคม ในปีค.ศ. 1810 โดนจะเป็นพิธีอภิเษกสมรสระหว่าง เจ้าชายลุดวิกที่ 1 Ludwig I of Bavaria กังเจ้าหญิงเทเรซา Princess Theresa of Bavaria ในการจัดเทศกาลนี้นั้น ได้กลายเป็นงานประจำปีที่มี การแสดงต่างๆ และผู้เข้าร่วมเทศกาลนี้นั้น จะมีการแต่งกายในชุดพื้นเมือง ด้วยความน่าสนใจ

ของเทศกาลนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมาก ซึ่งในหลายๆประเทศนั้น ก็มีการจัดขึ้นในอีกมากมาก หลากหลายเมืองหลายๆประเทศ โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการ เฉลิมฉลองให้กับชาวเยอรมัน ที่ได้อาศัยอยู่ในต่างแดน ท่านใดที่ยากไปสัมผัสเทศกาลนี้ จะต้องมาในช่วงเดือนกันยายน

โดยที่เทศกาล Oktoberfest จะจัดขึ้นประมาณวันที่ 12 ไปจนถึงวันที่ 17 ตุลาคมของทุกๆปี ด้วยบรรยากาศที่เย็นสบาย โดยที่จะไม่หนาวจนเกินไป และเราอยากให้ทุกท่านได้ไปสัมผัส ซักครั้งหนึ่งในชีวิตนี้กับ เทศกาลสุดอลังกาล

เทศกาลประจำปีของอังกฤษที่จะจัดขึ้นในเดือนธันวาคมของทุกๆปีโดยจัดก่อนเทศกาลคริสต์มาส

มาต่อกันที่ประเทศอังกฤษกับ เทศกาลน่าเที่ยว ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก และคงเป็นเทศกาลอะไรไปไม่ได้ นอกจาก เทศกาลเผานาฬิกา Burning the Clocks เทศกาลนี้เป็นจะมีการจัดขึ้น ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี โดนจะตัดก่อนเทศกาลคริสต์มาส ที่เมืองชายฝั่งของไบร์ทตัน ในประเทศอังกฤษ โดยที่จะเป็นเทศกาลทางด้านศิลปะ

และโคมไฟโดยที่ผู้คนจะใีการ ทำโคมไฟจากกระดาษ จากนั้นจะมีการแห่ไปรอบเมือง ไปจนถึงบริเวณชายหาด และจะมีการโยนโคมไฟ ลงไปในกองไฟโดยที่ เทศกาล Burning the Clocks นั้นจะเป็นประเพณีของชาวไบร์ทตัน ที่มีมาตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1993 โดยจุดประสงค์ของเทศกาลนี้ จะเป็นการเลือกของการเฉลิมฉลอง

ในเทศกาลที่นอกจากคริสต์มาส ซึ่งในการเฉลิมฉลองในครั้งนี้นั้ได้ทำให้คนในชุมชน ได้มาเข้ามามีส่วนร่วม ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนที่ นับถือศาสนาคริสต์เพียงอย่างเดียว โดยในแต่ละปีนั้นก็มีการกำหนด ธีมที่แตกต่างกันออกไป และภายในงานก็จะมีการเดินขบวน

ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว หรือคนในชุมชนก็สามารถ เข้าร่วมขบวนแห่ในครั้งนี้ได้ และภายในงานก็จะมี ชุดเครื่องมือที่ใช้ในการ ทำโคมไฟ โดนจะมีทัวัสดุและวิธีการทำ และรวมไปถึงสายรัดข้อมือ ที่จะต้องใคเพื่อใช้สำหรับ การเข้าร่วมในการเดินขบวน

ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเทศกาล ที่ได้รับความสนใจจาก นักมีองเที่ยวจากทั่วโลก และต้องการมาสัมผัสซักครั้ง ที้งหมดนี่ก็คือเทศกาลระดับโลก ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก รบมไปถึงมีความน่าสนใจ หากใครที่มีโอกาสเดินทางไป ก็ลองไปสัมผัสซักครั้งหนึ่ง

เทศกาลในเอเซีย

นักร้องน่ารัก