เทศกาลตะวันตก เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองให้กับความกล้าหาญในการต่อสู้ของวัวกระทิงและนักสู้วัวกระทิงของฝรั่งเศสจะสนุกและดุดันเพียงใด?

เทศกาลตะวันตก หากพูดถึงเทศกาลตะวันตก จะมีอยู่หลายๆเทศกาลที่ น่าไปสัมผัสเป็นอย่างมาก โดยในแต่ละเทศกาลนั้น จะมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เรามาดูกันว่ามี เทศกาลระดับโลก หนึ่งในนั้นก็คือ เทศกาล Feria de Nimes โดยจะเป็นเทศกาลที่ถือว่า ได้รับความนิยมอย่างมาก เทศกาลมีชื่อเสียง และเป็นศูนย์กลางในต่อสู้

กับวัวกระทิงที่มีการจัดขึ้น ในทุกๆปีของฝรั่งเศส ซึ่งจะมีมาตั้งแต่ในปี 1952 จดได้มีการเปิดเผยมากขึ้น โดยที่นายเบอร์นาร์ด manadier Montaut ได้มีการยกเลิกการต่อต้าน กีฬาสู้วัวกระทิงในนีม แต่ถูดกีดกันจากยูเนี่ยนของ เมืองกระทิงฝรั่งเศสต่อไป ซึ่งงานเทศกาลนี้ได้ทีการ จัดขึ้รที่เมืองนิมส์ โดยจะเป็นการจัดขึ้นเพื่อ

เป็นการเฉลิมฉลองให้กับ ความกล้าหาญของการต่อสู้ กับวัวกระทิงและนักสู้วัวกระทิง หรือที่เรียกกันว่า โตแรโร Torero ซึ่งนักสู้วัวกระทิงนี้จะเหมือนกับ วีรบุรุษของชาติที่เปรียบได้กับ นักฟุตบอลของประเทศ และในงานเทศกาลนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่การรับชม

การต่อสู้วัวกระทิงเท่านั้น เพราะยังมีกิจกรรมอีกมากมาย ที่ทำให้งานเทศกาลที่นี่ มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น จึงทำให้เทศกาลนี้ทั่วโลก ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และมีผู้สนใจไปร่วมงานจำนวนมาก ถึงบางคนอาจจะมองว่า ในการจักงานเทศกาลนี้

มันจะมีความรุนแรงจนทำให้ เกิดอันตรายในทุกๆปี แต่มนความเป็นจริงแล้ว ขึ้นอยู่กับผู้ร่วมงานในแต่ละคน หากใครที่ทีความขื่นชอบ และมีความสนใจในการ จะไปร่วมเทศกาลนี้ ก็สามารถไปร่วมไปที่ประเทศฝรั่งเศส และใครที่มีโอกาสได้ไปสัมผัส จะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน

เทศกาลตะวันตก เทศกาลแห่งความสนุกสนานของคนในท้องถิ่นและรวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานกับเทศกาลนีซ คาร์นิวัล

เรามาต่อกันที่ เทศกาลยุโรป ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ที่หบายคนอยากไปสัมผัส กับเทศกาลนี้ เทศกาล Le Carnival de Nice ถือว่าหนึ่งในเทศกาลแห่งสีสัน และเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ของคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ที่ได้ไปเที่ยวช่วงเทศกาล ซึ่งเทศกาลนีซ คาร์นิวัล จะมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ถึง 125 ปีมาแล้ว ซึ่งในเมืองนีชที่อยู่ทางใต้ ของประเทศฝรั่งเศสที่จะมี เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนักแต่ในการจัด เทศกาลต่างประเทศ มันจึงทำให้ให้เป็นภาพ แห่งความสนุกสนาน เพราจะเต็มไปด้วยขบวนแห่ ที่จะมีหลากหลายประเภท โดยเฉพาะขบวนลูกโป่ง ที่ทำออกมาในรูปต่างๆไม่ว่าจะเป็น รูปการ์ตูน รูปมังกร รวมทั้งใบหน้าคนดังต่างๆมากมาย

และในแต่ละปีนั้นก็จะมีคอนเซ็ปต์ ที่ต่างกันไปในแต่ละปี ไฮไลท์ของงานเทศกาลนี้ ที่จะมีการประดับประดา สถานที่ต่างๆด้วยแสงสีเสียง สุดอลังกาลอย่างครบถ้วนและสวยงาม จึงทำให้มีความตื่นตาตื่นใจ แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยผู้คนในท้องถิ่นจะพร้อมใจกัน ในการแต่งตัวมาในชุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแต่งตังเป็น ชาวจีนในอดีต

หรือว่าจะเป็น ชาวยุโรปยุคเรเนซองส์ และจะมีการจัดขึ้นในช่วง ฤดูหนาวเป็นประจำทุกๆปี ที่อยู่คู่กับท้องฟ้าสีน้ำเงิน ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่เป็นฉากหลังอย่างอลังกาล ที่นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้ โดยงานคาร์นิวัล จะจัดขึ้นที่เมืองนีซและจะมี นักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมเทศกาบ มากว่า 1,000,000 คนเลยทีเดียว โดบมนการจัดงานนั้น จะมีการจัดงานถึง 2 สัปดาห์เลยทีเดียว

เทศกาลที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และจะจัดขึ้นในเดือนธันวาคมก่อนเทศกาลคริสต์มาสที่เมืองชายฝั่งของไบร์ทตันมาดูกันว่าจะเป็นเทศกาลอะไร?

อีกหนึ่งเทศกาลตะวันตก ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเป็น เทศกาลอังกฤษ ที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เพื่อได้เลยว่าหลายๆคนก็ต้องการ ที่จะไปสัมผัสกับเทศกาลนี้ เทศกาลเผานาฬิกา Burning the Clocks จะเป็นเทศกาลที่จะมีการจัดขึ้น เป็นประจำในทุกๆปีโดยที่ จะมีการจัดขึ้นในช่วง เดือนธันวาคมก่อนงาน เทศกาลคริสต์มาส

จะจัดขึ้นที่เมืองชายฝั่งของ ไบร์ทตันในประเทศอังกฤษ เทศกาลนี้จะเป็นเทศกาลที่ รวมเหล่าผู้คนเข้าด้วยกัน เพราะจะเป็นเทศกาล ของศิลปะและโคมไฟ โดยผู้คนที่จะร่วมงานนี้นั้น จะมีการทำโคมไฟจากกระดาษ จากนั้นจะแห่ไปรอบๆเมือง โดยไปสิ้นสุดที่บริเวณชายหาด จากนั้นจะโยนโคมไฟลงไป ในกองไฟและเทศกาล Burning the Clocks

จะเป็นเทศกาลของชาวไบร์ทตัน ที่มีมาตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1993 โดยจุดมีประสงค์ของงานเทศกาล เพื่อให้เป็รแนวทางในการเลือก การเฉลิมฉลองเทศกาลที่ นอกเหนือจากการเฉลิมฉลอง เทศกาลคริสต์มาส และในการเฉลิมฉลอง เทศกาลนี้จะเป็นการทำให้

คนในชุมชนได้มาร่วมกัน ในการมีส่วนร่วมโดยที่ คนทุนที่มาเข้าร่วมเทศกาล ไม่จำเป็นจะต้องนับถือ ศาสนาคริสต์เท่านั้น ในการทำโคมไฟและนำไปเผา จะเป็นการสื่อถึงการทำให้ นึงถึงช่วงเวลาที่ผ่านในแต่ละปี และเป็นการทบทวนเรื่องราว

ที่เกี่ยวกับความรู้สึกต่างๆ ในแต่ละปีก็จะมีการกำหนด ธีมที่ต่างกันออกไป และจะมีการเดินขบวน ทั้งคนในชุมชนรวมไปถึง นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงาน แต่จะต้องซื้อชุดเครื่องมือในการทำโคมไฟ หาโอกาสไปสัมผัสซีกครั้ง แล้วทุกท่านจะต้องติดใจ

เทศกาลตะวันตก

เทศกาลที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมของไอริชด้วยการเฉลิมฉลองที่เชื่อมโยงชาวไอริชจากทั่วทุกมุมโลก

การเฉลิมฉลองที่เป็นการ เชื่อมโยงชาวไอริชของ ทั่วทุกมุมโลก กับเทศกาล วันเซนต์แพทริก ที่ถือว่าเป็นวันที่มีสำคัญอย่างมาก ของทางศาสนาคริสต์ ในประเทศไอร์แลนด์ โดยวันเซนต์แพทริกนั้น เป็นวันที่สำคัญที่สุดทางศาสนาคริสต์ ในประเทศไอร์แลนด์ และจะเป็นเทศกาลที่แสดงออกถึง วัฒนธรรมของไอริชได้ดีที่สุด

ยังเป็นการเฉลิมฉลองที่ เป็นการเชื่อมโยงชาวไอริช จากทั่วทุกมุมโลกให้เกิด รู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และในวันเซนต์แพทริก จะมัสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความสำคัญ และไม่ได้มีเพียงแค่สีเขียว ที่เป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลนี้ โดยที่ผู้เฉลิมฉลองชาวไอร์แลนด์ จะมีการสวมใส่ชุดสีเขียว ในทุกๆคนทั่วทั้งประเทศ และจะมี leprechaun

ที่จะเหมือนกับตัวเอลฟ์ ในเทพนิยายของตำนาน และสัญลักษณ์ของวันเซนต์แพทริก ก็จะเป็นใบแชมรอก จะเป็นพันธุ์ไม้โบราณของไอร์แลนด์ โดยมีลักษณะเป็นใบไม้สีเขียว 3แฉก ที่เป็นการสื่อถึงพระเจ้าศักสิทธิ์ 3 องค์ รวมไปถึงเนื้อเค็มและผักกระกล่ำ

ที่เป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลนี้ ด้วยการเฉลิมฉลองด้วยอาหาร ที่เป็นอาหารอบบดั่งเดิม ตามแบบฉบับของชาวไอร์ริช ซึ่งชาวไอริชกผ้จะมีการ รับประทานผักกระหล่ำคู่กับ เบคอนไอริช แต่จะไม่ใช่เนื้อเค็ม จากนั้นได้มีการปรับเปลี่ยนโดย ชาวไอริชที่อพยพ

ไปอยู่ใน ประเทศอเมริกา เพราะพวกเขาเหล่านั้นจพต้อง ประหยัดรายจ่ายจากราคาเนื้อ มีราคาแพงกว่าถือว่า เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ มีความสำคัญอย่างมาก ของชางไอริชทั่วโลกกับ เทศกาลทั่วโลก ที่มีความสำคัญและ น่าสนใจเป็นอย่างมาก

เทศกาลหน้ากากนี้มีมายาวนานด้วยการเฉลิมฉลองโดยสวมหน้ากากพร้อมกับแต่งกายสุดอลังการ

อีกหนึ่งเทศกาลตะวันตก ที่มีชื่อเสียงโด่งดัวทั่วโลก ที่หลายคนอยากไปสัมผัส เทศกาลมีชื่อเสียง นั่นก็คือ เทศกาลเทศกาลคาร์นิวัล หรือเทศกาลหน้ากาก โดยจะมีการจัดงานเทศกาล มาอย่างยาวนานตั้งแต่ ในปี ค.ศ. 1268 จะเป็รการเฉลิมฉลองโดยที่ ทุกคนจะสวมหน้ากาก และจะต้องมีการแต่งตัวให้ ความอลังการมากที่สุด

ความเป็นมาของเทศกาลนีเ จะเป็นการที่ช่างทำหน้ากาก หรือ mascareri ได้มีการรวมตัวกันก่อตั้งสมาคมขึ้น ในช่วงปี ค.ศ. 1436 หรือศตวรรษที่ 18 ด้วยการสวมหน้ากาก โดยชาวเวนีซนั้นจะถือว่า การสวมหน้ากากนั้นเป็นเรื่อง ที่ปกติสำหรับในการใช้ชีวิตประจำวัน

เนื่องจากจะเป็นการปกปิด ความเป็นส่วนตัวของผู้คน ในการใช้ชีวิตของพวกเขา แลเพื่อไม่ต้องกลัวว่าใคร จะสามารถทราบถึงลักษณ์ ที่แท้จริงของตนเองได้ จนกระทั้งในปีค.ศ.1797 การสวมใส่หน้ากากนั้น ได้กลายเป็นสิ่งต้องห้าม และมีผู้ฝ่าฝืนจะต้องพบกับ

ความตายจนกระทั่ง นักศึกษาของ Academy of Fine Art ได้นำเทศกาลหน้ากาก กลับมาอีกครั้งในปีค.ศ.1970 โดยที่ผู้คนจะสวมใส่เสื้อผ้า สีสันสวยงามสุกอลังการ และจะออกมาเดินเฉลิมฉลอง กันบนท้องถนน จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคม ไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ระยะเวลา 12 วัน ที่เมืองเวนีซ

สาวสวย ในดวงใจ

เทศกาลตะวันออก

เทศกาลตะวันตก