เทศกาลที่น่าไป เทศกาลระดับโลกที่จัดขึ้นทุกปีในเมืองเวนิสที่มีขบวนพาเหรดพร้อมกับการเต้นรำที่เป็นการเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลินจะมีความน่าสนใจขนาดไหน?

เทศกาลที่น่าไป ในแต่ละประเทศและ แต่ละทวีปนั้นก็จะมี เทศกาลที่มีความหลากหลาย ที่น่าสนใจทุกๆเทศกาล ปละหนึ่งใน เทศกาลน่าเที่ยว ที่อยากให้ทุกคนได้ไปสัมผัส นั่นก็คือเทศกาลเวนิส คาร์นิวัล Venice Carnival ถือว่าเป็น เทศกาลระดับโลก ที่ได้มีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆปี โดยจะจัดขึ้นในเมืองเวนิส ถือว่าเป็นเทศกาลที่ผู้คน

จากทั่วโลกให้ความสนใจ ผู้เข้าร่วมเทศกาลทุกคน จะต้องสวมหน้ากาก ที่ได้มีการตกแต่งอย่างสวยงาม และจะแต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง ในยุคโบราณของชาวเวเนเชียน จากนั้นจะออกมาเดินพาเหรด รวมไปถึงการเต้นรำ ที่เป็นการเฉลิมฉลอง หันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน อีกทั้งยังมีหารแสดงดนตรีสด ที่จัดขึ้นในบริเวณจัตุรัส

และรวมไปถึงสถานที่สำคัญๆ ที่อยู่ภายในเมืองแห่งนี้ และจะจัดขึ้นในช่วง ปลายเดือนมกราคม ไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และจะมีผู้คนจำนวนมาก ที่ได้รวมตัวกันที่บริเวณ จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค ซึ่งเทศกาลเวนิสคาร์นิวัลนั้น ได้มีการจัดขึ้นครั้งแรก

ในข่วงปีค.ศ. 1162 ด้วบการรวมตัวกันเพื่อออกมาเต้นรำในหารเฉลิมฉลอง ให้กับชัยชนะของกองทัพเวเนเชียน จนได้กลายเป็นเทศกาล ที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ จนในยุคศตวรรษที่ 17 เทศกาลนี้ได้ถูกยกเลิกไป เพราะในช่วงนั้นที่ถือว่า

หน้ากากนั้นเป็นของต้องห้าม ถ้าหากใครสวมหน้ากาก ในที่สาธารณะก็ถือว่า มีความผิดร้ายแรง จนในปีค.ศ. 1979 เทศกาลนี้ก็กลับมาอีกครั้ง ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง ที่ได้รับความสนใจ และมีการจัดเทศกาลนี้ทุกๆปี ที่อยสกให้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง

เทศกาลที่น่าไป เทศกาลแห่งความสนุกสนานที่เป็นเทศกาลแห่งการระลึกถึงเซนต์แพทริก นักบุญคนสำคัญแห่งไอร์แลนด์

มาต่อกันที่ เทศกาลยุโรป ที่ถือว่าได้รับความสนใจ จากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ที่หลั่งไหลกันไปสัมผัส กับเทศกาลนี้ เทศกาลนี้นั้นถือว่าเป็นเทศกาล แห่งความสนุกสนาน โดยจัดขึ้นเพื่อการระลึกถึง เซนต์แพทริก นักบุญคนสำคัญของไอร์แลนด์ กับเทศกาล St. Patrick s Day โดยชาวไอริชนั้นมีความเชื่อ ในเรื่องทีาเกี่ยวกับเซนต์แพทริก

ที่ทำให้คนตายนั้นสามารถ ฟื้นคืนชีพและขับไล่งู ทุกๆชนิดให้หใดไปจากแผ่นดินไอร์แลนด์ โดยที่เซนต์แพทริกนั้น เป็นผู้ที่ได้มีการนำเอา แชมร็อค Shamrock ที่เป็นต้นไม้ที่มีใบสามแฉก นำมาใช้ในการสอนต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่อง Trinity หรือตรีเอกานุภาพ พระบิดา พระบุตร และพระจิต ซึ่งในวันนี้นั้นชาวไอริช ก็จะไปกันที่โบสถ์ในช่วงเช้า

โดยจะมีการเฉลิมฉลองในช่างบ่าย ซึ่งในการเฉลิมฉลองช่วงบ่าย ชาวไอริชจะมีการกินดื่ม รวมไปถึงหารเต้นระบำต่างๆ ที่เรียกกันว่า Irish Dance จะเห็นได้ในภาพยนตร์ รวมไปถึงชาวไอริชก็จะค้อง กินอาหารที่เรียกว่า corned beef and cabbage โดยมีใบ shamrock

ซึ่งเป็นใบไม้ขนาดเล็กสามแฉก ที่จะนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ ที่บ่งบอกถึง เทศกาลต่างประเทศ St.Patrick’s Day เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ ของการกลับมาในฤดูใบไม้ผลิ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญ ของประเทศไอร์แลนด์ที่ถือว่า เป็นความภาคภูมิใจ ของชาวไอริชมาจนถึงปัจจุบัน

เทศกาลที่เป็นของชาวฮอลแลนด์ที่เป็นการเฉลิมฉลองกับอย่างสนุกสนานพร้อมกับการร่วมใจกันใส่เสื้อสีส้มโทนเดียวกัน

หนึ่งใน เทศกาลน่าสนใจ และมีชื่อเสี่ยงเป็นอย่างมาก และหล่ยคนอยากไปสัมกับ นั่นก็คือ King’s Day นี่คือเทศของชาวฮอลแลนด์ หรือขาวเนเธอแลนด์ โดยในเทศกาลนี้นั้นถือว่าเป็น วันชาติของชาวฮอลแลนด์ และยังเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา ของกษัตริย์ฮอลแลนด์ อีกด้วย โดยในปัจจุบันนี้นั้น เทศกาลนี้จะขึ้นในวันที่ 27 เมษายนของทุกปี

อีกทั้งยังเป็นวันพระราชสมภพ ของกษัตริย์ วิลเลม อเล็กซานเดอร์ ราชวงศ์ออเรนจ์ นัสเซา ซึ่งเทศกาลนี้นั้นได้มีการ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1855 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง วันเกิดของเจ้าหญิงวิลเฮล์มิน่า และวันคล้ายวันพระราชสมภพ ครบ 5 ชันษา จากนั้นวันเจ้าหญิงนี้นั้น ได้กลายมาเป็นวันพระราชินี Queen’s Day และเป็นการเฉลิมฉลอง

ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยจะมีสรจัดขึ้นในวันทพระราชสมภพของกษัตริย์ ในรัชสมัยนั้นๆ โดยที่วันชาติของชาวฮอลแลนด์ จะเป็นวันที่บ่งบอกถึงความสามัคคี ของคนในชาติและรวมไปถึง การแสดงถึงความผูกพันธ์ ของประชาชนและรางวงศ์ ที่มีความเชื่อมโยงกันอยู่ และในเทศกาลนี้นั้น ชาวฮอลแลนด์ทถกท่านจะมีการ

สวมเสื้อสีส้มที่ถือว่าเป็น สีประจำประเทศและเป็นสี ทีาประจำขอฃราชวงศ์ จึงให้ทำภาพที่ออกมาสู่ชาวโลก ได้เห็นเป็นภาพส้มทั้งแผ่นดิน ในเทศกาลนร้ของพวกเขา ในวันนั้นกษัตริย์และราชวงศ์ ก็จะออกมาทักทายประชาชน ในเมือง Amstelveen หรือ Groningen

ตั้งแต่ช่วงเที่ยงไปจนถึงช่วงบ่าย ในวันนี้ชาวฮอลแลนด์ทุกคน จะมีการเฉลิมฉลองอย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังมีกิจกรรมยอดนิยม ที่หลายคนให้ความสนใจ นั่นก็คือการนั่งเรือในคลองประจำเมือง ต้องลองไปสัมผัสซักครั้ง

เทศกาลที่น่าไป

การเฉลิมฉลองการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิตัดขึ้นที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

เทศกาลมีชื่อเสียง ที่จะมีการจัดขึ้นในเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก Saint Petersburg ของประเทศรัสเซีย และจะจัดขึ้นในช่วง ปลายฤดูใบไม้ผลิและมีไปจนถึง ในช่วงของต้นฤดูร้อน ประมาณเดือนพฤษภาคม ไปจรถึงเดือนกรกฎาคม นั่นก็คือ เทศกาล White Night หรือจะมีอีกชื่อทึ่เรียกว่า เทศกาลชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน

ซึ่งเทศกาลนี้นั้นจะเป็นการ เฉลิมฉลองการสิ้นสุดของ สงครามโลกครั้งที่ 2 และรวมไปถึงการล่มสลาย ของระบบคอมมิวนิสต์ ที่เคยเกิดขึ้นในประเทศรัสเซีย และยังเป็นสัญลักษณ์หนึ่ง ที่เกี่ยวกับการจบการศึกษา ของนักเรียนมัธยมในรัสเซีย โดยเทศกาลนี้นั้นจะมีหารจัดขึ้น อยู่เป็นประจำในทุกๆปี ซึ่งทางชาวเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

รวมถึงชาวรัสเซียจากทั่วประเทศ ที่จะเกินทรงรวมตัวกันเพื่อ เฉลิมฉลองกับเทศกาลนี้ เทศกาลนี้นั้นถือว่าเป็น เทศกาลที่มีคว่มยิ่งใหญ่ ระดับประเทศโดนที่นักท่องเที่ยว หรือใครที่ได้เที่ยวเทศกาลนี้ จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศการ ในการชมเมืองและพระอาทิตย์เที่ยงคืน

ที่สุดแสนจะโรแมนติก และยังมีการแสดงอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดนตรีสด การแสดงบัลเล่ต์ อีกทั้งยังมีการฉายหนังสั้น ที่มีทั้งนักร้องและนักแสดง ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่เกินทางกมาร่วมเทศกาลนี้ ที่น่าสนใจอย่างมาก จึบทำให้มีคนจำนวนไม่น้อย ที่อยากไปสัมผัสด้วยตัวเอง

และไฮไลท์สำคัญของเทศกาลนี้ นั่นก็คือเรือใบสีแดงที่มีขนาดใหญ่ อย่าง Scarlet Sails ด้วยการแล่นอยู่กลางแม่น้ำ ที่จะมีการด้วยการแสดง สุดอลังกาล และยังมีหารการจุดดอกไม้ไฟ ที่สวยงามเป็นจำนวนมาก และหาดูที่อื่นๆได้ยากมาก

เทศกาลดนตรีระดับโลกที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่โดยมีผู้เข้าชมหลายแสนคนและได้รับความสนใจทั่งโลกจะสนุกยิ่งใหญ่เพียงใด?

อึหหนึ่งเทศกาลระดับโลก ที่ได้รับความสนใจและ มีผู้สนใจเข้าร่วมเทศกาลนี้ กะนเป็นจำนวนมากจากหลายๆประเทศ นั่นก็คือ เทศกาลดนตรีระดับโลก ที่มีชื่อว่า TOMORROWLAND ทึ่เต้มไปด้วยความมหัศจรรย์ของ EDM เทศกาลนี้นั่นเป็นเทศกาล ทางด้านดนตรีที่มีความยิ่งใหญ่โดยที่ มีผู้เข้าชมมากกว่า 450,000 คน

นี่ยังไม่รวมผู้ชม จากทางบ้านที่ไก้รับชม ผ่านการถ่ายทอดสด ให้ทุกคนได้ชมตลอดงาน ซึ่งเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่นี้ จะจัดขึ้นในทุกๆปีโดยที่ จะมีการจัดติดต่อกันมาตั้งแต่ ในปี 2005 และจัดขึ้นที่ อุทยานธรรมชาติเดชอร์ ที่กรุงบูม ของประเทศเบลเยียม และได้รับความนิยมอย่างมาก และรวมไปถึงมีกระแสตอบรับ

ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ ในทุกวันนี้ได้มีการบัตรเข้าชม ที่มีความทันสมัยอย่าง Rare Item แลถขายหมดในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น จากการได้รับความนิยมสูง ในวันที่ได้งานเทศกาลนั้น ก็จะมีเวทีมากถึง 16 เวที และทีเหบ้าบรรดาศิลปิน EDM ระดับแนวหน้าของโลก ที่มารวมตัวกันในเทศกาลนี้ โดยมี ID&T ที่เป็นกลุ่มคนที่มำให้มีเทศกาล EDM

โดยที่พวกเขานั้นคิดว่าเทศกาลดนตรีที่สุดยอดนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่จะต้องมีวงดนตรี ที่มีชื่อเสียงเท่านั้นแต่มันจะต้องมีบรรยากาศทที่ทำให้ผู้คนที่มาร้วมงาน สามารถสนุกและมีอารมณ์ร่วม จึงได้มีการออกแบบให้มี ความเป็นโลกมหัศจรรย์ หรือโลกเวทมนตร์ ที่มีลักษณะที่เป็นโลกอนาคต เชื่อว่าหลายคนอยากไปสัมผัส

เทศกาลในเอเชีย

เทศกาลทั่วโลก

สาวสวย น่ารัก

เทศกาลที่น่าไป